มะเร็งตับตรวจเองได้อย่างไร
สมัยก่อนเวลาได้ยินว่าใครเป็นโรคตับแข็ง โรคมะเร็งตับ ทั้งหมอทั้งใครต่างก็ส่ายหน้า ให้เอาคนไข้กลับบ้านทำนองว่ารักษาต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์ คงจะอยู่ได้ไม่นาน
คำพูดหรือความคิดแบบนั้นแทบจะไม่มีให้ได้ยินอีกแล้วในปัจจุบัน คนที่เป็นระเม็งตับในสมัยนี้มักจะพบได้แต่เนิ่นๆ ไม่ขณะที่ก้อนเนื้อยังไม่โตมาก และโรคยังไม่ลุกลาม ทั้งนี้คงเพราะคนสมัยนี้รู้จักไปตรวจร่างกายตรวจสุขภาพกันล่วงหน้าเป็นการป้องกัน หรือจะเป็นเพราะมีเครื่องมือดีที่ช่วยในการตรวจพบโรคต่างๆได้ดีกว่าเมื่อก่อนมาก และเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง คือการที่เราเข้าใจดีแล้วว่าสาเหตุสำคัญของมะเร็งตับ คือการที่มีโรคตับแข็งมาก่อน และเข้าใจดีว่าสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดตับแข็ง คือโรคตับอักเสบ ชนิด B และ ชนิด C ทำให้คนที่ตรวจเลือด พบโรคไวรัสตับอักเสบจะได้รับการดูแลจากแพทย์เป็นพิเศษ และมักจะได้รับกรตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ และมีการตรวจอัลตราซาวด์เป็นประจำทุกๆ 6-12 เดือน
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้เราสามารถตรวจพบก้อนมะเร็งตับได้บ่อยขึ้น และมักจะตรวจพบในขณะที่ก้อนยังมีขนาดเล็กและยังไม่ลุกลาม
น่าเสียดายที่การตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ สามารถตรวจและเชื่อถือได้เพียง 30 – 40% ของคนไข้ที่มีมะเร็งตับในขณะที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ตรวจไม่พบว่าค่าเลือดตัวนี้จะผิดปกติ จึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจด้วยอัลตราซาวด์อย่างสม่ำเสมอ
สารบ่งชี้มะเร็งตับในเลือดนี้เราเรียกว่า AFP ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มะเร็งจะปล่อยไปในกระแสเลือด โดยทั่วไปหากเราเป็นไวรัสตับอักเสบ B หรือ C ก็ควรตรวจเลือดหาค่า AFP และอัลตราซาวด์ตับทุกๆ 6 เดือน แต่หากเราไม่มีไวรัสตับอักเสบควรตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งแพทย์มักจะแนะนำให้ตรวจเลือด AFP และอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบนทุกๆ ปีอยู่แล้ว
Contact : Tumorrow.com
FaceBook : Tumorrow